ตลาดผ้ามาแชร์ รู้จักกับชนิดของผ้าที่มีอยู่บนตลาด
Author : Panthip Mongkonpetchsiri
Textile Specialist

เวลาที่เราออกไปซื้อผ้าหรือเสื้อผ้าใหม่ บางครั้งเราอาจจะสับสนกับชนิดของผ้าที่มีอยู่ในท้องตลาด แต่ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป! ถ้าคุณอ่านจบ เราจะพาคุณมารู้จักกับชนิดของผ้าที่พบได้บ่อยๆ ในการช้อปปิ้ง เพื่อให้คุณสามารถเลือกซื้อผ้าที่ตรงกับความต้องการและความชื่นชอบของคุณได้อย่างเหมาะสมและถูกต้อง ผ้ามีกี่ชนิด ชนิดของผ้ามีอะไรบ้าง มาหาคำตอบกัน

วันนี้เราจะพูดถึงผ้าที่มีอยู่บนตลาด ผ้าทำจากเส้นใยชนิดต่าง ๆ เพื่อให้คุณได้รู้จักและเข้าใจถึงคุณสมบัติของผ้า ว่า ผ้ามีกี่ชนิด
โดยหลักๆ ผ้าแบ่งได้ 3 ชนิด 

1. Natural fiber เส้นใยที่ทำจากธรรมชาติ 100% 

เส้นใยที่ทำมาจากธรรมชาติ หลักๆแบ่งเป็นเส้นใยที่มาจากพืช  ผ้าฝ้าย (Cotton) ผ้าลินิน (Linen) เป็นเส้นใยประเภทเซลลูโลส (Cellulose fiber) และเส้นใยจากสัตว์เช่น ผ้าไหม (Silk) ผ้าขนสัตว์ (Wool) ถ้ามาจากสัตว์จะเป็นเส้นใยโปรตีน (Protien fiber) ผมคนก็ถือเป็นเส้นใยโปรตีนเหมือนกันนะคะ  ผ้าที่ได้จากเส้นใยธรรมชาตินั้นถูกใช้ในการผลิตผ้าหลากหลายประเภท แต่ละเนื้อผ้าก็มีคุณสมบัติ และต้องการ การดูแลรักษาที่ต่างกัน

ผ้าฝ้าย (Cotton) โด่งดังเรื่องความสวมใส่สบาย และการระบายอากาศที่ดีเยี่ยม แต่สามารถขึ้นราได้ง่ายหากอยู่ในสภาวะอับชื้น เนื่องจากเป็นใยธรรมชาติก่อให้เกิดแบคทีเรียได้ อาจเจอกรณีหดและย้วยหลังการซัก

ผ้าลินิน (Linen) ผลิตมาจากเส้นใยธรรมชาติ ที่มาจากพืชที่เรียกว่า ‘ต้นแฟลกซ์’ (Flax) ทนทานกว่าฝ้าย ระบายอากาศดี แต่ยืดน้อยกว่า ผ้าจะแข็งกว่ายับง่ายกว่าเมื่อเทียบกับคอตตอน รีดให้เรียบได้ยาก หากนำผ้าไปพับจะทำให้เกิดรอยยับ เพราะเส้นด้ายจะหักเสียทรงผ้าได้ง่าย

ผ้าไหม (Silk) ผลิตมาจากใยไหมซึ่งมาจากโปรตีนของรังไหม นุ่มละมุน มีความเงางามแวววาว ไม่ยับง่าย ดูดความชื้นได้ดี แต่ราคาสูง ดูแลรักษายากต้องซักด้วยสบู่อ่อนๆ หรือซักแห้งเท่านั้น เพราะการซักแบบทั่วไปอาจทำให้ความเงางามหรือความนุ่มของผ้าไหมลดลง

ผ้าขนสัตว์ (Wool) จากขนของสัตว์เช่น ขนแกะ ผ้าขนสัตว์เป็นผ้าที่ให้ความอบอุ่นได้ดีมาก เนื้อผ้าฟูสวมใส่สบาย และยังกันไฟได้ด้วยนะคะ แต่เนื่องจากเป็นเส้นใยโปรตีนจากสัตว์จึงสามารถเป็นอาหารของมอดและแมลงได้ การดูแลรักษาค่อนข้างพิเศษ เพราะต้องซักแห้งเท่านั้น หากนำไปซักผิดวิธีอาทำให้เนื้อผ้าเกิดอาการช็อต แข็งและไม่นุ่มฟูแบบเดิม ทำให้ผ้าขนสัตว์มีราคาแพงมากเมื่อเทียบกับผ้าอื่นๆทั่วไป

natural fiber อาจมีราคาที่สูงกว่าผ้าที่ผลิตจากโพลีเมอร์ เพราะกระบวนการผลิตที่ซับซ้อนและใช้เวลามากกว่า คุณสมบัติผ้าที่ได้ ก็มีข้อดีและข้อเสียต่างกันไป 

2. Synthetic fiber เส้นใยสังเคราะห์จากโพลีเมอร์ 

ผ้าสแปนเด็กซ์ (Spandex) คือ ปกติสแปนเด็กซ์จะหมายถึงเส้นใยที่ทำจากยาง (Rubber) เป็นเส้นใยที่มีความยืดหยุ่นสูง แต่เส้นใยสแปนเด็กเพียงลำพัง ไม่สามารถนำมาทำเป็นผ้าได้ เพราะความแข็งแรงไม่เพียงพอ และจะทำให้ย้วยเกินไป จึงมักจะเห็นสแปนเด็กซ์ในรูปแบบส่วนผสมในเนื้อผ้าต่างๆ เช่น โพลีเอสเตอร์สแปนเด็ก ไนลอนสแปนเด็กซ์ มักจะถูกนำมาผสมประมาณ 2- 20% แล้วแต่ความต้องการความยืดหยุ่นของเนื้อผ้า ผ้าที่ผสมสแปนเด็ก จะค่อนข้างสปริงตัว และยืดหยุ่นได้ดี นิยมนำมาทำเสื้อผ้าที่ต้องการ การรัดรูป เก็บรูปร่าง ชุดชั้นใน เป็นต้น

ผ้าไนลอน (Nylon)  เป็นเส้นใยสังเคราะห์อีกตัวหนึ่งที่ได้ับความนิยมในการนำมาทำเสื้อผ้า เนื่องจากเป็นเส้นใยที่มีความแข็งแรงสูง มีความเหนียว เนื้อผ้าเงามัน สวมใส่แล้วรู้สึกเย็นผิว ที่พบมากคือการนำไปทำชุดชั้นใน แต่เส้นใยไนลอนเป็นเส้นใยที่ไม่ค่อยทนแดด อาจทำให้สีของเนื้อผ้าซีดหรือจางลงได้ง่ายหากโดนแสงแดดเป็นระยะเวลานาน เมื่อเทียบกับเส้นใยโพลีเอสเตอร์ ข้อเสียอีกหนึ่งข้อที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้คือ เส้นใยไนลอนเป็นเส้นใยที่ดูดซับสีได้ทุกประเภทสี เพราะฉะนั้นหากซักผ้าไนลอนรวมกับผ้าสีอื่นที่สีตก มันจะติดสีแน่นอน ระวังกันด้วยนะคะ

3. Natural Synthetic fiber เส้นใยสังเคราะห์จากวัสดุธรรมชาติ

เส้นใยเรยอน (Rayon) หรือ regenerated cellulose ที่ถูกเรียกแบบนี้เพราะ เรยอน เป็นเส้นใยที่ได้จากการนำ เปลือกไม้ ใยฝ้าย หรือใยพืชต่างๆ มาทำการละลายในสารเคมี (เหมือนเป็นการรีไซเคิลเส้นใยเซลลูโลสเลยค่ะ) พอนำเซลลูโลสที่ว่ามาทำละลายในสารเคมี ก็จะนำมาฉีดใหม่ ผ่าน Spinnerate คล้ายการฉีดเส้นใยโพลีเอสเตอร์ เนื่องจากเรยอน เป็นเส้นใยธรรมชาติที่นำมาทำละลายแล้วฉีดออกมาใหม่ ทำให้เส้นใยที่ออกมา ยังเป็นเส้นใยเซลลูโลส แต่การเรียงตัวของโครงสร้างเส้นใยมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ทำให้เส้นใยเรยอนที่ได้ จะมีความเงามัน เหมือนโพลีเอสเตอร์ แต่ใส่สบายเหมือนคอตตอน ผ้าเด้ง ยืดหยุ่นดี ทำให้เรยอน เป็นอีกเนื้อผ้าทีไ่ด้รับความนิยมสูงในท้องตลาด แต่เนื่องจากกระบวนการผลิตเรยอน ค่อนข้างใช้สารเคมีที่อันตรายอาจทำให้มีโรงงานน้อยมากที่ผลิตเส้นใยประเภทนี้ค่ะ

            นอกจากนี้ ข้อดีและข้อเสียของผ้าที่เป็นเส้นใยธรรมชาติ และเส้นใยสังเคราะห์ หลายๆเรื่อง ส่งผลให้ปัจจุบันนวัตกรรมของผ้ามีการผสมเส้นใย 2 ชนิดเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว เพื่อให้ผ้ามีคุณสมบัติการใช้งานแบบที่ต้องการ การผสมเส้นใยทำให้ผ้าได้รับคุณสมบัติดีๆ ที่หลากหลาย เช่น ความแข็งแรง, ความยืดหยุ่น, ทำความสะอาดง่าย, ลดการยับ การหดตัว เช่น

ผ้าฝ้ายผสมกับผ้าใยสังเคราะห์ 

(COTTON 35% ผสมกับ POLYESTER 65%) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าผ้า TC 
(COTTON 80% ผสมกับ POLYESTER 20%) หรือที่เรียกว่า CVC

NYLON ผสม SPANDEX ได้ผ้าเเข็งแรง ยืดหยุ่นสูง เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติที่ดีจากทั้งสองประเภทของใย


เพราะฉะนั้นเมื่อรู้จักเส้นใยของผ้าแล้ว เราสามารถสังเกตุผ้าที่มีอยู่ในท้องตลาดได้คร่าวๆ ก่อนเลือกซื้อ ว่าผ้าจะทำมาจากเส้นใยชนิดไหน เพื่อเลือกให้เหมาะสมกับความต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็นผ้าทอ  (Woven fabric) หรือผ้าถัก (Knitted fabric)  คุณสมบัติของผ้าจากเส้นใยแต่ละชนิดนี้ก็จะให้คุณสมบัติใกล้เคียงกันค่ะ
   เมื่อรู้จักชนิดผ้าแล้ว ใครชอบการออกแบบเสื้อผ้า ก็สามารถเปิดร้านขายเสื้อผ้าที่ออกแบบได้ด้วยตัวคุณเอง เลือกผ้าที่เหมาะสม สร้างไอเดีย สินค้า และคุณสามารถเลือกซื้อผ้าที่ตรงกับความต้องการในคุณสมบัติ และความชื่นชอบของคุณได้เลย

 
เราเป็นหน้าร้านขายผ้าโพลีเอสเตอร์ 100%, polyester+spandex, ผ้าTK มีผ้าหลากหลายให้เลือกมากมาย! ทั้งผ้าถัก ผ้ายืด ผ้ากีฬา ไม่ว่าจะเป็นผ้าโปโล ผ้ากันหนาว ผ้าลูกไม้ ผ้ากำมะหยี่ ผ้าขนเทียม ฯลฯ เพื่อให้คุณสามารถเลือกผ้าที่ตรงกับความต้องการ และตรงกับสินค้าที่จะสร้างขึ้นได้อย่างสวยงาม  ดูดีในทุกรูปแบบ รับประกันว่าคุณจะพบผ้าที่มีคุณภาพดี และตรงกับคุณสมบัติที่เหมาะกับการใช้งานของคุณแน่นอน หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมว่าจะเลือกผ้าชนิดไหนดีสามารถสอบถามเพิ่มเติม หรือเข้ามาหน้าร้านตลาดผ้าจงสถิตย์ ได้ตลอดทุกวันเลย

Line OA : @startupjs (https://lin.ee/hyQIAo2)

website : taladpha.com

Tel : 090-686-0770

หากบทความนี้เป็นประโยชน์ ช่วยแชร์ไปเป็นความรู้ได้นะคะ